ยินดีต้อนรับ ไปตามหาสุนทรีย์กันเถอะ

ความสุขที่หาได้ทั่วไป

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

เที่ยววัดริมโขง (2)

     สวัสดีครับ หายไปนาน ครั้งก่อนเขียนเรื่องวัดริมโขง จ.มุกดาหาร ทิ้งไว้ มาต่อกันดีกว่า

ซุ้มประตูทางเข้าของเดิม ชาวบ้านเรียกวัดกลาง ก็เพราะอยู่ตรงกลางระหว่างอีก 2 วัด ซุ้มนี้อยู่ด้านข้าง

 เปรียบเทียบกับของใหม่ครับ ซึ่งอยู่ด้านหน้า ใหญ่โต สวยกันไปคนละแบบครับ
 นี่เป็นกึ่งโบสถ์กึ่งศาลา ภายในมีพระประธาน สำหรับบุคคลทั่วไป มาสักการะ บูชา เนื่องจากโบสถ์หล้งเดิมค่อนข้างเล็ก เวลามีผู้คนมามาก จะไม่สะดวก ทางวัดจึงสร้างขึ้นมาใหม่ แปลกตาดีครับ


นี่ครับโบสถ์เดิมของวัด ทั้งด้านหน้าและด้าน สวยงามมากโบสถ์นึงเชียวครับ เพียวงแต่ขนาดโบสถ์เล็กแลtรองรับจำนวนผู้คนจำนวนมากไม่ได้
วัดที่ 3 นี้เป็นวัดสุดท้ายบริเวณริมโขง ตลาดอินโดจีน ชาวบ้านเรียกชื่อวัดว่า " วัดยักษ์ " คงเป็นเพราะมีรูปปั้นยักษ์ 2 ตน อยู่ที่หน้าซุ้มประตูทางเข้าวัดนั่นแหละครับ

ที่วัดนี้มีสิ่งของโบราณที่ทางวัดเก็บรักษาไว้อย่างดี นั่นคือ เรือโบราณ ที่ทางวัดสร้างโรงเก็บไว้ให้เป็นอย่างดี เป็นเรือขุดจากต้นไม้ทั้งต้น
เรือนี้มีชื่อเรือว่า " นางมณฑล " ความยาวเท่าไหร่ จำได้ไม่ชัดครับ จำได้แต่ว่ามันยาวมากเหมือนกัน
มาดูโบสถ์กันบ้าง ซึ่งก็สวยงามไม่แพ้กันเพราะสร้างในสมัยที่ใกล้เคียง และก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันเลย นั่นคือขนาดที่ปัจจุบันเล็กเกินกว่าจะรองรับ ผู้มีจิตศรัทธา และนักท่องเที่ยวไหว
ทางออกแบบเดียวกันเลยครับ คือสร้างโบสถ์หลังใหม่ให้ใหญ่ขึ้น ถามเพื่อนที่อยู่ที่ มุกดาหารว่า ทำไมวัดมันจึงอยู่ใกล้กันจัง เพราะวัดทั้ง 3 มีระยะห่างกันประมาณ 200-300 เมตรเท่านั้น เพือ่นบอกว่าเกิดจาก 3 ตระกูลร่ำรวยในอดีต ที่ไม่ยอมน้อยหน้ากัน 1 สร้างวัดได้ 2-3 ก็สร้างได้ เราเลยได้วัดที่อยู่ติดๆกัน ซึ่งก็ดีครับแข่งกันสร้างวัด ไอ้เราแค่พยายามหยอดตู้บริจาคที่ทางวัดมีไว้ให้ได้ทุกตู้ ก็เก่งแล้ว อย่างว่าละครับ แข่งบุญ แข่งวาสนามันแข่งกันมิได้นี่นา 555  ครั้งหน้าผมจะพาข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวกันนะครับ สำหรับวันนี้ บายครับ